Monday, November 28, 2011

อาชีพขายกาแฟโบราณ




หลายคนคงเคยลองกาแฟโบราณคือกาแฟคั่วซึ่งกรรมวิธีในการชงก็แตกต่างไปจากกาแฟผงในปัจจุบัน  ร้านกาแฟที่มีกาแฟคั่วหรือกาแฟชงแบบโบราณนั้น โดยมากจะเป็นร้านเก่าที่ตั้งขายมาเป็นเวลาหลายปี

ในสมัยก่อนคนนิยมรับประทานกาแฟชงกันมาก แต่พอมีกาแฟผงแบบในปัจจุบัน ก็ทำให้คนขายกาแฟชงลดน้อยลง เพราะความสะดวกสบายที่มีมากขึ้นนั่นเอง

การชงเครื่องดื่มประเภทชาและกาแฟให้มีรสชาติอร่อย เข้มข้น กลมกล่อม ย่อมต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญ  ผู้ขายแต่ละคนก็จะมีสูตรในการชงเครื่องดื่มแตกต่างกัน  อย่างเช่น กาแฟร้อนหนึ่งแก้ว ใส่นม ใส่น้ำตาลกี่ช้อน  ใส่น้ำร้อนมากเท่าไร  ซึ่งกาแฟร้อนแก้วนี้ก็จะเป็นแก้วอร่อยของแต่ละคน

เมื่อลูกค้าอยากกินกาแฟแบบที่ต้องการ เช่นหวานน้อย หวานมาก ไม่ใส่นม ไม่ใส่น้ำตาล  ก็จะขึ้นอยู่กับผู้ขาย โดยใช้ความเชี่ยวชาญชงกาแฟตามแบบที่ลูกค้าต้องการโดยที่ยังคงความอร่อยได้ครบถ้วน

อุปกรณ์ในการขายเครื่องดื่มประเภทชงคือ เครื่องดื่มประเภทต่าง ๆ ได้แก่ ชา กาแฟ นมชง ซึ่งมีทั้งกาแฟผงแบบธรรมดา และกาแฟคั่วหรือกาแฟชงแบบโบราณนั่นเอง

กาแฟคั่วในท้องคลาดมีหลายราคาตั้งแต่ราคาหลักร้อยถึงราคาไม่กี่สิบบาท  นอกนั้นก็เป็นนมข้นหวาน นมสด น้ำตาล ครีมเทียม ซึ่งเป็นเครื่องปรุงที่ทำให้เครื่องดื่มมีรสชาติที่ต้องการ

อุปกรณ์สำคัญสำหรับกาแฟชงที่ขาดไม่ได้เลยก็คือหม้อใส่น้ำร้อน กระป๋องชงกาแฟ และถุงชงกาแฟ  ส่วนต้นทุนที่ใช้เปิดร้านขายกาแฟก็แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับทำเลของร้าน ราคาขายของแต่ละร้านก็จะแตกต่างกันเล็กน้อย โดยเครื่องดื่มที่ไม่ใส่นมก็จะมีราคาถูกกว่าเครื่องดื่มที่ใส่นม

เคล็ดลับการชงกาแฟให้อร่อย  กาแฟอร่อยไม่เกี่ยวกับสีของกาแฟ กาแฟคุณภาพดีเมื่อชงกับน้ำเดือดแม้ว่าจะไม่มีสีเข้มมากก็มีรสชาดอร่อยได้

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

ขนมบ้าบิ่นรสชาดถึงใจ



ปัจจุบันนี้มีอาหารและขนมที่เกิดจากการปรุงแต่งและสังเคราะห์เกิดขึ้นอย่างมากมาย ทำให้ผู้คนในสมัยนี้เริ่มที่จะลืมเลือนขนมที่ทำจากผลิตผลจากธรรมชาติซึ่งเป็นขนมที่มีคุณค่าต่อร่างกายอย่างมาก

ขนมบาบิ่นหรือขนมบ้าบิ่นเป็นขนมที่มีรสชาติถึงใจเช่นเดียวกับชื่อ  อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำขนมบ้าบิ่นได้แก่ กระทะแบน  วงขนมบ้าบิ่นและเหล็กแซะ  ส่วนประกอบของขนมบ้าบิ่นประกอบด้วย  แป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวจ้าว ไข่ไก่ น้ำตาล น้ำนมแมวและมะพร้าวเส้น

ขั้นตอนการทำขนมบ้าบิ่นคือ นำแป้งข้าวเหนียวและแป้งข้าวจ้าวมาผสมกับน้ำ ไข่ และน้ำตาล นวดให้เข้ากันประมาณ 15 นาที แล้วจึงใส่น้ำนมแมวและมะพร้าวเส้น  จากนั้นนำมาตักใส่วงขนม

ขนมบ้าบิ่นจะขายในราคา 4 ชิ้น 10 บาท  สำหรับส่วนผสมที่ขายไม่หมดในวันเดียว สามารถจะเก็บค้างคืนไว้ได้ แต่ต้องอุ่นก่อนจะนำมาใช้

ขนมบ้าบิ่นเป็นขนมไทยที่อยู่ในความนิยมตลอดกาล แม้แต่ชาวต่างชาติที่ได้รับประทานก็ติดอกติดใจในขนมชนิดนี้ หากทดลองทำอยู่เรื่อย ๆ ก็สามารถสร้างเป็นอาชีพเสริมได้อย่างดีทีเดียว

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

แปรรูปน้ำมันจากก้นครัว

 

มีน้ำมันหลากหลายชนิดวางจำหน่ายในท้องตลาด แต่ละชนิดล้วนมีคุณสมบัติเหมาะสมในการปรุงอาหารแตกต่างกัน

น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันเป็นน้ำมันที่มีเนื้อบางเบา ไร้กลิ่น จึงเหมาะสำสำหรับทำสลัดหรืออาหารประเภทผัด แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับการทอด เพราะมีจุดเกิดควันต่ำ เพียงแค่ทอดด้วยไฟอ่อน ๆ ก็ทำให้เกิดควันได้

น้ำมันดอกคำฝอยมีคุณสมบัติเหมาะสมในการประกอบอาหารคล้ายกับเมล็ดดอกทานตะวัน คือเหมาะสำหรับการทำสลัด ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดได้

น้ำมันถั่วลิสงอาจจะเป็นน้ำมันที่หลายคนไม่ค่อยรู้จักคุ้นเคย ใช้ประกอบอาหารได้ดีทั้งการทำสลัด ผัด หรือทอดเพราะไม่ค่อยเกิดควัน และมีกลิ่นหอมเหมาะแก่การปรุงอาหาร

น้ำมันข้าวโพดเหมาะสำหรับประกอบอาหารประเภททอดที่ใช้น้ำมันมาก  เพราะทนต่อความร้อนสูง ช่วยให้อาหารมีรสชาติอร่อยและคงคุณค่าของสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย  แต่เพราะมีราคาสูงจึงไม่ค่อยนิยมนำมาประกอบอาหาร

น้ำมันไบโอดีเซลที่ได้จากการแปรรูปน้ำมันที่ใช้แล้วจากการปรุงอาหาร  น้ำมันจากการประกอบอาหารหลายคนอาจคิดว่าไร้ประโยชน์และเป็นสิ่งปฎิกูลอุดตันท่อระบายน้ำ แต่มันจะกลายเป็นของมีค่าทันที หากนำไปขายต่อผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซลและมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 13 บาท

มหาวิทยาลัยกรุงเทพวิทยาเขตรังสิตเป็นตัวอย่างหนึ่งของการจัดทำโครงการผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันใช้แล้ว  มหาวิทยาลัยแห่งนี้จะรับซื้อน้ำมันใช้แล้วจากร้านค้า ห้องอาหาร โรงแรม ประชาชนทั่วไป นักศึกษา  ซึ่งแต่ละเดือนจะรับซื้อน้ำมันใช้แล้วมากกว่า 500 กิโลกรัม  โดยจะมีการจดบันทึกการซื้อขายและจ่ายค่าตอบแทนให้อย่างเป็นระบบ 

เพื่อปลูกจิตสำนึกให้รู้จักใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า สถาบันการศึกษาแห่งนี้จึงนำเอาไบโอดีเซลที่ผลิตได้มาใช้ทดแทนการเติมน้ำมัน สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ถึงหนึ่งแสนบาทค่อปีทีเดียว

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

ทำนาผักบุ้ง





ผักบุ้งเป็นพืชที่ขึ้นได้เองตามธรรมชาติ พบได้ทั่วไปตามพื้นที่ราบลุ่มทุกภูมิภาคของประเทศไทย  ผักบุ้งจึงเป็นผักพื้นบ้านที่เราสามารถนำมารับประทานได้ง่าย ๆ  ชื่อท้องถิ่นของผักบุ้งเป็นชื่อที่คุ้นหูกันดี คือผักทอดยอด  ที่เป็นชื่อแบบนี้เพราะผักบุ้งเป็นพืชน้ำที่มีลำต้นเลื้อยทอดยาวไปตามน้ำหรือที่ชื้นแฉะ

ผักบุ้งไทยมีสีขาวและสีแดงม่วง แต่ผักบุ้งจีนมีลักษณะลำต้นเป็นสีขาวขึ้นอยู่บนบกและจะไม่เลื้อยไปตามพื้น  ผักบุ้งอีกชนิดหนึ่งที่เรารู้จักกันดีคือ ผักบุ้งทะเล  ไม่มีใครนำผักบุ้งทะเลทำเป็นอาหาร แต่ผักบุ้งทะเลมีสรรพคุณทางยา ช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนผิวจากพิษแมงกะพรุนได้

แม่น้ำลำคลองจะมีผักบุ้งเจริญเติบโตลอยอยู่เป็นแพจะเกิดประโยชน์ต่อแหล่งน้ำมากมาย นักวิจัยชาวญี่ปุ่นพบว่าผักบุ้งไทยมีความเหมาะสมในการดูแลแหล่งน้ำให้สะอาด  เพราะการมีผักบุ้งลอยอยู่ในน้ำพอสมควรไม่รกหรือหนาเกินไป จะช่วยคืนออกซิเจนให้น้ำ ทำให้น้ำสะอาดขึ้น

ในอดีตเราจะเก็บผักบุ้งจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติ แต่ปัจจุบันสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป  การใช้สารเคมี ยากำจัดศัตรูพืช วัชพืช ทำให้เกิดสารตกค้างในท้องไร่ท้องนา ผักบุ้งในแหล่งน้ำจึงไม่ปลอดภัยเหมือนเมื่อก่อน

ส่วนในเขตชุมชนเมืองก็เต็มไปด้วยตึกสูง ผักบุ้งในธรรมชาติลดน้อยลงและหาเก็บมารับประทานได้ยากมากขึ้น  เกษตรกรในพื้นที่ต่าง ๆ จึงหันมาทำนาผักบุ้ง ปลูกผักบุ้งขายเป็นรายได้เสริม  บางพื้นที่การทำนาผักบุ้งกลายเป็นอาชีพหลักทำรายได้เลี้ยงครอบครัว

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

Wednesday, November 23, 2011

คุณค่าของงานใบตองไทย



สำหรับชาวบ้าน ใบตองใช้เป็นภาชนะในการห่อหรือบรรจุอาหาร แต่สำหรับชาววัง ใบจากกล้วยนี้ จะถูกนำมาประดิดประดอยเป็นรูปทรงงดงามอย่างสร้างสรรค์  การเย็บใบตองเป็นงานฝีมือที่ต้องอาศัยความชำนาญ ประณีตละเอียดอ่อน ใบตองสีเขียวสดสามารถนำมากรีด ฉีก เจียน ตัด พับหรือม้วนแล้วแต่งแต้มด้วยดอกไม้หลากสีสันหรือพับเป็นกลีบรูปต่าง ๆ และประกอบขึ้นเป็นรูปทรง เช่น รูปกลีบผกาซ้อน รูปกลีบเล็บครุฑ หรือจะนำมาถักตะขาบเพื่อใช้ในงานตกแต่งก็สามารถทำได้

ไม่มีหลักฐานยืนยันได้ว่า งานใบตองเริ่มขึ้นเมื่อใด ยุคใด หรือใครเป็นผู้สอน แต่งานฝีมือต่าง ๆ มักจะมีต้นกำเนิดจากภายในราชสำนักโดยขุนนางหรือเหล่าคนชั้นสูงมักจะนำลูกหลานเข้าถวายตัวเพื่อขอรับการฝึกฝนด้านศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ  และเมื่อออกมาแล้วก็มักนำความรู้มาเผยแพร่หรือประกวดประชันกัน จนแพร่หลายในหมู่ประชาชน

คุณค่าของงานใบตองไทยถือเป็นประณีตศิลป์อันอ่อนช้อย อาศัยเวลา ความชำนาญ ความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนชาติใดในโลก ใช้ประดับตกแต่งในงานสำคัญ โอกาสพิเศษ ประเพณีต่าง ๆ

หากต้องการให้ใบตองสดทนนาน เมื่อประดิษฐ์แล้ว ต้องแช่น้ำอย่างน้อย 3 ชั่วโมงหรือหนึ่งคืน แล้วนำมาวางในภาชนะคลุมด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ จะอยู่ได้ 3-5 วัน นำใส่ถุงพลาสติก รัดปากถุงให้แน่น สามารถเก็บในตู้เย็นได้นานประมาณ 1 เดือน

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

กระเทียมจากดินภูเขา



จังหวัดศรีสะเกษ คือแหล่งปลูกกระเทียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย การปลูกกระเทียมที่นี่จะเริ่มปลูกเมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาว เพราะกระเทียมจะเจริญเติบโตและให้ผลผลิตดีในอากาศเย็นเท่านั้น  ถ้าปลูกช่วงฤดูร้อน กระเทียมจะไม่ขึ้น หรือถ้าขึ้น ใบก็จะเหี่ยว หรือถ้าปลูกช่วงฤดูฝน ดินก็จะแฉะเกินไป ทำให้รากเน่า เกิดเชื้อรา ต้นกระเทียมก็จะอาจจะตายได้

กระเทียมขยายพันธุ์โดยวิธีใช้หัว โดยการแกะกระเทียมแยกออกจากกลีบ เพื่อเลือกขนาดที่นำไปปลูก เกษตรกรจะเริ่มเตรียมแปลงปลูกล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วัน เพื่อให้ดินมีความชื้นที่เหมาะสม กระเทียมจึงจะเจริญเติบโตได้ดี

เมื่อครบหนึ่งสัปดาห์ ต้นกระเทียมจะงอกออกมาเป็นต้นอ่อน และกว่าจะเจริญเติบโตเป็นต้นใหญ่ ที่เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ก็ใช้เวลา 90-100 วัน

ลักษณะเด่นของต้นกระเทียมศรีสะเกษ เปลือกจะหนา หัวแน่น กลิ่นหอมฉุน รสชาติเผ็ดร้อนกว่ากระเทียมชนิดอื่น สามารถเก็บไว้ได้นานข้ามปี  เมื่อนำไปประกอบอาหารก็จะมีกลิ่นหอม และช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้

สิ่งสำคัญที่ทำให้กระเทียมศรีสะเกษมีกลิ่นและรสชาติโดดเด่นกว่ากระเทียมที่ปลูกจากแหล่งอื่น ๆ  เป็นเพราะดินในจังหวัดศรีสะเกษส่วนใหญ่จะเป็นดินภูเขา  มีแร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์กว่าพื้นที่อื่น ๆ ของภาคอีสาน

นอกจากกระเทียมกลีบเล็ก ๆ แล้ว จังหวัดศรีสะเกษยังขึ้นชื่อในเรื่องของกระเทียมโทนอีกด้วย คำว่ากระเทียมโทนไม่ได้เป็นชื่อของพันธุ์  แต่เป็นชื่อกระเทียมที่ได้รับสารอาหารน้อย ทำให้โตมามีหัวขนาดใหญ่เพียงแค่หัวเดียว  แต่กระเทียมโทนจะมีรสชาติอ่อนกว่ากระเทียมทั่ว ๆ ไป  จึงนิยมนำไปดองหรือทำเป็นกับแกล้ม

กระเทียมถือได้ว่าเป็นสมุนไพรชั้นเลิศ  หากเรากินกระเทียมเป็นประจำก็จะช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ลดไขมันและคอเสลเตอรอลในเส้นเลือด บำรุงร่างกาย สร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง

กระเทียมจีนกลีบใหญ่ บรรจุในกระสอบจำนวนมหาศาลที่นำเข้ามาขายในประเทศไทยได้อย่างเสรีโดยไม่เสียภาษี ทำให้กระเทียมจากจีนกลายเป็นสินค้าที่หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด และเบียดบังเม็ดเล็กแต่รสชาติดี หอมฉุนอย่างกระเทียมไทยไปจนเกือบหมดสิ้น

การตีตลาดกระเทียมจากจีนเกิดขึ้นจากสัญญาเขตการค้าเสรีระหว่างจีนและไทยซึ่งมีผลตั้งแต่ปี 2546  นอกจากนี้ยังมีการลักลอบนำเข้ากระเทียมราคาถูกจากตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรไทย และเกือบครึ่งหนึ่งได้เลิกปลูกกระเทียมไปแล้ว

พื้นที่ปลูกกระเทียมไทยที่ลดลงส่งผลให้ราคากระเทียมไทยในปัจจุบันมีราคาสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 120 150 บาท แพงกว่ากระเทียมจีนถึงสองเท่าตัว

ทุกวันนี้กระเทียมจีนสามารถมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าครึ่ง และยิ่งคนไทยหันไปบริโภคกระเทียมจากจีนที่มีเม็ดใหญ่ ราคาถูกโดยไม่รู้ว่า เรากำลังทำร้ายเกษตรไทย และทำลายกระเทียมชั้นดีเลื่องชื่ออย่างกระเทียมเม็ดเล็ก หอมฉุนที่ชื่อว่ากระเทียมไทยให้ลดน้อยลงไปทุก ๆ วัน

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

Monday, November 21, 2011

ต้มยำกุ้งต้มยำของไทย




หลังงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ในปี พ.ศ. 2525  ถนนข้าวสารมีความยาวเพียง 340 เมตรเท่านั้น  แต่เต็มไปด้วยโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหารนับร้อยร้าน  แต่ร้านที่เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติแม้จะไม่เคยมาเมืองไทย ก็คือร้านอาหารที่เอาชื่อต้มยำกุ้งมาเป็นชื่อร้าน และชาวต่างชาติที่มาเมืองไทยเป็นครั้งแรก ก็มักจะไม่พลาดอาหารที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองไทย  นั่นก็คือต้มยำกุ้ง

ในประเทศมาเลเซีย ที่วิถีชีวิตของผู้คนมีความหลากหลาย มีวัฒนธรรมและอาหารการกินที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมพื้นถิ่นของมลายู จีน และอินเดีย  และที่กลางกรุงกัวลาลัมเปอร์  มีอาหารไทยที่เป็นที่ชื่นชอบของคนมาเลเซียอยู่หลายร้าน แทบทุกร้านต้องมีชื่อว่าต้มยำห้อยท้าย เพื่อเป็นหลักประกันว่าเป็นร้านอาหารของคนไทยแท้ ๆ

ตัวเลขจากงานวิจัยของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย หรือ สกว. ระบุว่า มีร้านอาหารไทยที่มีชื่อว่าต้มยำในประเทศมาเลเซียถึง 35,000 ร้าน  เฉพาะบนถนนสายนี้ ระยะทางประมาณไม่เกิน 1 กิโลเมตร  เราพบร้านต้มยำของคนไทยมากกว่า 10 ร้าน

รสชาติอาหารที่คุ้นปากสำหรับชาวมาเลเซีย  ส่วนใหญ่จะมีรสค่อนข้างจืด แต่เน้นกลิ่นหอมแรงจากเครื่องเทศ ต้มยำกุ้งสำหรับชาวมาเลเซียจึงต้องปรับรสชาด ลดความร้อนแรงของพริก น้ำปลา และมะนาวลงอย่างละครึ่ง เพื่อให้ถูกปาก ติดใจชาวมาเลเซีย

ร้านต้มยำในประเทศมาเลเซียเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของชาติไทยที่ปรากฏแก่สายตาผู้คนในต่างถิ่นต่างแดน  เป็นแหล่งเผยแพร่วัฒนธรรมการกินของชาติไทย และสร้างอาชีพ สร้างรายได้จากภูมิปัญญาการทำอาหารของคนไทยที่สืบทอดสั่งสมมานมนานจนเป็นที่รู้จักและยอมรับ สร้างเอกลักษณ์ใหม่ที่เป็นสากลด้วยอาหารที่เผ็ด เปรี้ยว เค็ม หากพูดถึงต้มยำ หมายถึงประเทศไทย

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

ส้มตำอาหารเลี้ยงปากท้อง



หากพูดถึงประเพณีแห่เทียนพรรษา หลายคนคงต้องนึกถึงจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ มีมาตั้งแต่ปีพ.ศ.   2470 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 83 ปีแล้ว

เบื้องหลังความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของขบวนคือแรงศรัทธา แรงกายและแรงใจของชาวบ้านที่ใช้เวลาร่วมเดือน ทุ่มเท ประดิษฐ์เทียนพรรษาอันวิจิตร เข้าร่วมขบวนแห่และถวายเป็นกุศลบุญแก่วัดในช่วงเข้าพรรษา

เช่นที่วัดพระธาตุหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ช่างหลอมเทียนประจำคุ้มวัด จะเป็นผู้นำเทียนจากการบริจาคของชาวบ้านและที่ซื้อหามาเพิ่มเติม หลอมรวมกันจนได้สีเทียนที่เหลืองเข้ม นำไปเทลงแบบพิมพ์ ทิ้งจนเทียนเกาะติดกันและแห้งสนิท จึงแกะเทียนนำไปแปะเข้ากับโครงร่างที่ขึ้นแบบรอไว้ พร้อมให้ช่างแกะสลักเทียนวาดลวดลายอันวิจิตรเต็มฝีมือ สร้างสรรค์รูปร่างตามจินตนาการ

จากวัดพระธาตุหนองบัวห่างออกไปทางทิศตะวันออกราว 3 กิโลเมตร ที่วัดบูรพา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี  ที่นี่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีการทำเทียนพรรษาเอาไว้ด้วยการใช้วิธีการติดพิมพ์  นั่นคือการที่ช่างทำเทียน นำเอาขี้ผึ้งต้มให้ละลาย จากนั้นเทใส่แม่พิมพ์ที่แกะเป็นรูปเตรียมไว้  เมื่อขี้ผึ้งเริ่มจับตัวกันเป็นก้อน  ช่างเทียนจะนำเอาขี้ผึ้งไปพิมพ์ลงบนแม่พิมพ์โดยการใช้ขวดแก้ว คลึงขี้ผึ้งให้ได้ลวดลายตามแบบพิมพ์ก่อนจะนำขี้ผึ้งที่ขึ้นลายแล้วไปตัดแต่งลวดลาย เพิ่มความคมชัดตามต้องการ  แล้วนำไปติดกับโครงที่ขึ้นเป็นรูปร่างไว้เป็นลวดลายอันวิจิตรตระการตา

กำลังหลักสำคัญที่ทำให้เทียนพรรษาสำเร็จได้อย่างงดงามคือกลุ่มแม่บ้านที่ต่างใช้ช่วงเวลานี้ ตระเตรียมอาหารเลี้ยงปากท้องช่างทำเทียนของท้องถิ่น  เป็นการมีส่วนร่วมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามที่เหล่าชาวบ้านเต็มใจช่วยโดยไม่ต้องเอ่ยปากขอแรง

อาหารที่ทำในแต่ละวันจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่มีในช่วงเวลานั้น เพราะแต่ละวันชาวบ้านจะนำวัตถุดิบต่าง ๆ ที่มีในครัวเรือน ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาประกอบอาหาร  แต่อาหารหลักที่ขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือส้มตำ ที่บรรดาช่างทำเทียนฝีมือดี ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ลูกอีสาน หากขาดส้มตำ ก็จะขาดแรง

จากอาหารเพียงไม่กี่อย่าง ที่ปรุงขึ้นมาด้วยความเรียบง่าย และใจที่เปี่ยมไปด้วยความศรัทธาสามารถสร้างพลังให้กับช่างทำเทียน ทำให้เกิดผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับคุ้มวัดบูรพา ด้วยการคว้ารางวัลชนะเลิศเทียนประเภทติดพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. 2552  เป็นรางวัลให้ชาวบ้านในคุ้มวัดเล็ก ๆ มีกำลังใจจะสืบสานวัฒนธรรมประเพณีที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่บรรพบุรุษ  สร้างสรรค์งานอันเป็นเอกลักษณ์ใหม่ ๆ ออกสู่สายตาผู้คน ในขบวนแห่เทียนพรรษาประจำปีอันยิ่งใหญ่งดงามของจังหวัดอุบลราชธานี

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

Sunday, November 20, 2011

งดกินเนื้อสัตว์ก็ช่วยโลกได้


 
ถั่วเหลืองคือถั่วชนิดหนึ่งในบรรดาถั่วหลากหลายชนิดที่มากด้วยคุณประโยชน์  ปัจจุบันจึงจึงมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากถั่วเหลืองมากมายให้เลือกรับประทาน ถั่วเหลืองอุดมด้วยสารอาหารทั้งคาร์โบไฮเดรต แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส วิตะมินเอ บีหนึ่ง บีสอง บีหก บีสิบสอง วิตะมินอี

นมถั่วเหลืองเครื่อมดื่มของคนทุกเพศทุกวัยสามารถดื่มได้ทุกวัน สามารถเสริมสุขภาพ ป้องกันโรคหัวใจล้มเหลว ท้องผูก ที่สำคัญช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้

เปลือกถั่วก็ยังมีประโยชน์เพระมีสารเลซิตินในปริมาณสูง ช่วยลดคอเลสเตอรอล ไขมันในเส้นเลือด บำรุงสมอง เพิ่มความจำได้อีกด้วย

แต่ถั่วเหลืองก็มีแคลเซี่ยมต่ำ ดังนั้นเราต้องกินอาหารที่มีแคลเซี่ยมเพื่อให้ร่างกายได้รับปริมาณแคลเซี่ยมอย่างเพียงพอด้วย

เต้าหู้ถูกดัดแปลงให้เป็นอาหารมากมายหลายหลายชนิด เช่น เต้าหู้อ่อนมีเนื้ออ่อนนุ่ม สีขาวนวล กลิ่นหอมนิยมนำมาใส่แกงจืดและสุกี้ เต้าหู้หลอดเป็นเต้าหู้อ่อนอีกชนิดหนึ่งซึ่งมีกรรมวิธีการผลิตทันสมัย บรรจุในหลอดสุญญากาศ ทำให้รักษาความสะอาดและเก็บรักษาไว้ได้นาน

เต้าฮวยลักษณะคล้ายกับเต้าหู้อ่อนต่างกันตรงที่เต้าฮวยเนื้อนิ่มกว่า นิยมรับประทานคู่กับน้ำขิงเป็นอาหารว่าง

เต้าหู้แข็งขาวเป็นเต้าหู้ที่มีเนื้อแข็ง สีขาวนวลออกครีม มักทำเป็นก้อนสีเหลืองหนาประมาณ 1 เซนติเมตร เหมาะสำหรับทำอาหารหลายชนิด เช่น ยำ ลาบ แกง ผัดหรือทอด

เต้าหู้เหลืองมีทั้งชนิดอ่อนและแข็งเปลือกภายนอกจะมีสีเหลือง ภายในเนื้อสีขาวนวล  รสชาดเค็มกว่าเต้าหู้ขาวเพราะเป็นเต้าหู้ที่ปรุงขึ้นใหม่ด้วยการนำไปแช่น้ำเกลือก่อนจะจุ่มสีเหลืองหรือขมิ้นเป็นสัญญลักษณ์เพื่อให้รู้ว่าเต้าหู้ชนิดนี้มีรสเค็มกว่าเต้าหู้ขาว และรสเค็มนี้สามารถยืดอายุการเก็บอาหารได้นานขึ้นอีกด้วย

เต้าหู้ยี้ทำจากเต้าหู้ขาวที่ผ่านการหมัก มีทั้งสีแดงและสีเหลือง นิยมใช้ทำน้ำจิ้มสุกี้หรือกินกับข้าวต้ม

เต้าหู้ซีอิ้วดำ เป็นเต้าหู้สีดำที่ได้จากการนำถั่วเหลืองไปเคี่ยวกับซีอิ๊วดำและเครื่องเทศสมุนไพร มีกลิ่นหอม รสชาดกลมกล่อม นิยมนำไปผัดกับดอกกุช่าย หรือ ยำเกี่ยมฉ่าย

เต้าหูพวง เต้าหู้หั่นเป็นชิ้น ทอด แล้วร้อยเชือกเป็นพวง นิยมใส่ในก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ หรือพะโล้

ฟองเต้าหู้เกิดจากการต้มน้ำเต้าหู้จนเข้มข้น แล้วผิวหน้าของเต้าหู้จับตัวกันเป็นแผ่น สามารถนำมารับประทานได้ทันที  ฟองเต้าหู้แบบเปียก หากนำไปตากหรืออบเป็นฟองเต้าหู้แบบแห้ง ก็สามารถทำได้

ฟองเต้าหู้มีทั้งแบบแผ่นใหญ่ที่คนจีนนำไปห่ออาหาร เช่น ปอเปี๊ย หอยจ๊อ และแบบที่เป็นชิ้นเล็ก นิยมใส่ในแกงจืดหรือนำไปอบทอดกรอบแล้วทำเป็นผัดขิง

เต้าหู้ถือกำเนิดมากว่าสองพันปีในจีนแผ่นดินใหญ่ คนจีนนิยมกินเต้าหู้เป็นอาหารที่มีโภชนาการสูง คนจีนเรียกเต้าหู้ว่าโดฟู หรือ เตาฟู ซึ่งแปลว่าถั่วเน่า ส่วนคำว่าเต้าหู้ที่คนไทยเรียก เพี้ยนมาจากสำเนียงของจีนฮกเกี้ยนว่า เตาฮู ส่วนคนญี่ปุ่นเรียกเพี้ยนเป็นโตฟู ส่วนภาษาอังกฤษเรียกเต้าหู้ว่าโตฟูตามแบบคนญี่ปุ่น

วัฒนธรรมการกินเต้าหู้ของชาวญี่ปุ่น เริ่มต้นจากการที่คนญี่ปุ่นเดินทางกลับจากการเผยแผ่พุทธศาสนาในจีน และกลายเป็นอาหารที่นิยมกินกันมากในหมู่พระสงฆ์ หนึ่งร้อยปีถัดมา เต้าหู้จึงกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในอาหารของชนชั้นสูงอย่างขุนนางและซามูไร

วัฒนธรรมการกินเต้าหู้ของชาวจีนและชาวญี่ปุ่นนั้นแตกต่างกัน  คนจีนจะพยายามดัดแปลงเต้าหู้ ทั้งรูปทรงและรสชาติให้เปลี่ยนไปจากเดิมเป็นอาหารหลากหลายชนิด ขณะที่คนญี่ปุ่นกลับพยายามรักษาความเรียบง่ายของเต้าหู้แบบเดิมเอาไว้ และเต้าหู้ในจานอาหารที่สวยงามถือเป็นศิลปะชั้นสูงแขนงหนึ่งของชาวญี่ปุ่น

บทเพลงชื่อ Meat Free Monday ซึ่ง พอล แม็กคาร์ตนีย์ นักร้องนักดนตรีชาวอังกฤษแต่งขึ้นเพื่อรณรงค์ให้คนงดกินเนื้อสัตว์ทุกวันจันทร์  นอกจากจะเป็นนักดนตรีชื่อก้องโลกแล้ว  พอล แม็กคาร์ตนีย์  ยังเป็นนักกิจกรรมต่อต้านการกินเนื้อสัตว์อย่างแข็งขัน  เค้าเชื่อว่าการกินเนื้อสัตว์เป็นต้นเหตุโรคร้ายของมนุษย์ และเป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดภาวะโลกร้อน 

ทุกปีวัวจะผลิตกาซมีเทน เฉลี่ยตัวละ 180 กิโลกรัม ทำให้โลกร้อนกว่ากาซคาร์บอนไดออกไซด์ถึงกว่า 25 เท่า
ข้อมูลจากสหประชาชาติระบุว่า กระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ทั้งหมด ตั้งแต่การทำปศุสัตว์ในทุ่งหญ้าไปจนถึงมือผู้บริโภค ส่งผลให้เกิดกาซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นถึง 18 เปอร์เซ็นต์ของการปล่อยกาซเรือนกระจกทั่วโลก จึงเป็นที่มาของการรณรงค์งดกินเนื้อสัตว์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน โดยกำหนดให้ทุกวันจันทร์เป็นวันงดกินเนื้อสัตว์โลก  เพียงแค่งดกินเนื้อสัตว์ คุณก็ช่วยโลกได้แล้ว นี่คือคำพูดอันโด่งดังของ พอล แม็กคาร์ตนีย์

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

ปลาทูไทย



หลายคนคิดว่าปลาทูไทยมีแต่ที่มาจากแม่กลองและอ่าวไทยเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วปลาทูตามตลาดทั่วประเทศ และที่มีรับประทานกันตลอดปีก็เพราะเรามีแหล่งจับปลาทู ทั้งจากฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน แต่เพราะปลาทูอ่าวไทยลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว รัฐบาลจึงออกกฎหมายให้ปิดอ่าวไทยตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ ถึง 15 พฤษภาคมของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูปลาทูวางไข่ โดยห้ามใช้อวนติดตาทุกชนิดทำประมงจับแม่ปลาทู ตั้งแต่บริเวณหน้าอ่าวประจวบคีรีขันธ์จนไปถึงบริเวณหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ดังนั้นช่วงเวลา 3 เดือนที่ห้ามจับปลาทู ปลาทูที่เรารับประทาน จึงเป็นปลาทูจากฝั่งอันดามัน  ที่มีให้จับกันตลอดทั้งปี การจับปลาทูต้องจับกันในคืนเดือนมืดเท่านั้น ซึ่งปลาทูที่จับได้ จะผ่านกระบวนการแยกขนาด นำไปแช่แข็งในห้องเย็นที่มีอุณหภูมิ ลบ 40 องศาเซลเซียสเพื่อให้คงสภาพความสดอยู่ได้นาน

แต่เดิมการส่งปลาทูไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ต้องใช้วิธีการดองสดคือ การแช่ปลาในลังที่ใส่น้ำแข็ง  แต่ปัจุบันด้วยการแช่แข็งและระบบการขนส่งที่ดีขึ้น ทำให้คนไทยทั่วทุกภาคมีปลาทูสดรับประทานกันตลอดทั้งปี 

ปลาทูไทยมีขนาดตัวเล็กลงจากในอดีตจนเห็นได้ชัด จาก 9 ถึง 10 ตัวต่อกิโลกรัมเมื่อหลายปีก่อน  ในวันนี้มีขนาดเฉลี่ยเหลือเพียง 12-14 ตัวต่อกิโลกรัมเท่านั้น  ปริมาณการจับปลาทูไทยในน่านน้ำอ่าวไทยก็ลดลงอย่างน่าใจหาย จนไม่เพียงพอต่อความต้องการของคนในประเทศ  ภาพของปลาทูจำนวนมหาศาลจากประเทศอินโดนีเซีย ปากีสถาน และอินเดียที่เดินทางข้ามทะเลผ่านเรือขนาดใหญ่ที่มีห้องแช่แข็งอยู่ใต้ท้องเรือ นำปลาทูมาขายถึงบ้านเรา สะท้อนให้เห็นว่าวันนี้ ความอุดมสมบูรณ์ของอาหารในท้องทะเลไทยลดน้อยลง ทั้งจากน้ำเสียของมลพิษทางเรือ หรือมาตราการทางอุตสาหกรรม อีกทั้งการควบคุมที่ไม่เข้มงวด ปล่อยเสรีชาวประมงไปจับปลาในเขตอนุรักษ์ จึงอาจส่งผลให้เราต้องนำเข้าปลาทูจากต่างชาติเพิ่มมากขึ้นทุก ๆ ปี

ปลาทูไทยแม้ตัวเล็ก แต่เนื้อแน่นและหอมมันอร่อยกว่าปลาทูตัวใหญ่ ๆ แต่เนื้อกระด้างจากต่างชาติที่กำลังครองตลาดแทนปลาทูไทยแท้ ๆ ที่กำลังเหลือน้อยลงทุก ๆ วัน

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต